DJ
song:
artist:
NEWS
Aug 13, 2015 | ดู 1,962 ครั้ง

ชาวเน็ตซึ้ง! ตูนบอดี้สแลม โพสต์ถึงแม่ผู้เป็นแรงผลักดันยิ่งใหญ่

ที่อินสตาแกรมของ ตูน บอดี้สแลม @artiwara ได้โพสต์ภาพ และข้อความสุดซึ้งถึงแม่ ผู้เป็นแรงผลักดันยิ่งใหญ่ ผู้ไม่เคยห้ามลูกชายให้ไปเล่นดนตรี จนมาเป็นบอดี้สแลมอย่างในปัจจุบัน

"artiwara..ตอนเป็นเด็ก..วิ่งหนีไม้เรียวแม่ไม่เคยทัน..จำได้ว่าครั้งหนึ่งตอนประมาณสิบขวบเคยโดนแม่ตีด้วยด้ามไม้ที่ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว..เพราะทำให้น้องชายร้องไห้..กับอีกครั้งที่จำได้แม่นคือตอนที่เป็นวัยรุ่นแล้ว..แม่จับได้ว่าไม่ไปเรียนพิเศษเพราะหนีไปประกวดวงดนตรี..กลับมาบ้านตอนค่ำวันนั้น..แม่ซึ่งอุตส่าห์เข้ากรุงเทพมานั่งรอเราที่เรียนพิเศษเพื่อมารอกินข้าวกับเราแต่กลับไม่เจอลูกตัวเอง..กลับมารออยู่ที่บ้านคุณป้าพร้อมไม้เรียวคู่กาย..จำได้ว่าโดนไปมิใช่น้อยเลยวันนั้น

..แม่บอกว่าแม่ไม่โกรธเลยที่เราไปเล่นดนตรี..แต่แม่โกรธที่เราไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เราควรทำก่อนเป็นลำดับแรก..คือ"การเรียน"..สิ่งที่ผมคิดในตอนนี้ก็คือ..หลังจากวันนั้นแม่ก็มีสิทธิเต็มที่ที่จะห้ามไม่ให้เราเล่นดนตรีอีกเพราะว่าเราไม่สามารถแบ่งเวลาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมได้..แต่สุดท้ายแม่ก็ไม่เคยห้ามไม่ให้ผมเล่นดนตรีและร้องเพลง..ไม่เคยเลยสักครั้ง..ทั้งๆที่ลึกๆแล้วผมคิดว่าแม่คงอยากให้เราตั้งใจเรียนโดยไม่อยากให้มีสิ่งใดมาชวนทำให้เราไขว้เขว..แต่แล้วแม่ก็เลือกที่จะยอมให้ผมได้ทำตามใจตัวเอง..และได้ทำในสิ่งที่เรารัก

..กีต้าร์ตัวแรกในชีวิตแม่ก็เป็นคนซื้อให้..เราชอบร้องเพลง..แม่ก็เคยส่งให้เราไปเรียนร้องเพลงเพราะได้ยินเสียงที่เราแหกปากร้องเพลงที่บ้านแล้วแม่คงกลัวว่าคอเราจะแตกไปเสียก่อน..หลังจากเรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์..จุฬาฯ..ผมก็เลือกที่จะไม่ทำงานประจำในด้านที่จบมา..แต่กลับเลือกที่จะร้องเพลงเป็นอาชีพแลกกับค่าจ้างคืนละไม่กี่ร้อยบาท..พร้อมกับแบกความหวังว่าสักวันสิ่งที่เราตั้งใจทำให้สำเร็จอยู่ในตอนนั้นคงเป็นจริงเข้าสักวันและคงทำให้แม่ได้เห็นและภูมิใจบ้างไม่มากก็น้อย...ก็คือการทำเพลงของตัวเองให้สำเร็จขึ้นมาสักอัลบั้ม..แต่มันก็ไม่ใช่เวลาแค่อาทิตย์หรือสองอาทิตย์..เดือนหรือสองเดือน..แต่ช่วงเวลาแห่งความหวังลมๆของผมนั้นมันใช้เวลาเป็นแรมหลายปีนับตั้งแต่เรียนจบจนได้มีเพลงของตัวเองเพลงแรกเปิดทางวิทยุให้ทุกคนได้ฟัง

..ช่วงเวลาอันยาวนานนั้น..แม่..ก็ไม่เคยบ่นและห้าม..หรือสั่งให้ผมหยุดทำสิ่งที่ผมฝันและตั้งใจเพราะแม่รู้ว่าผมมีความสุขที่ได้ทำ..ทั้งๆที่มันโคตรจะเป็นช่วงที่เลื่อนลอยที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งในสายตาของเขาหรือผู้ใหญ่ที่เฝ้ามองดูเราอยู่ห่างๆ..ด้วยความเป็นห่วง...แม่..ทำแค่บอกให้เราไปเรียนเนฯเอาไว้อีกทางเผื่อว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำในตอนนั้นมันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจ"ฝัน"..จะได้มีแผนสำรองเผื่อเอาไว้ในชีวิต"จริง"

..และจนวันนี้..สิบกว่าปีนับตั้งแต่เรียนจบมา..ขอบพระคุณแม่ที่ยังคงให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับ"ความฝัน"..รักแม่และยังคิดถึงไม้เรียวของแม่อยู่เสมอนะครับ :)


..ตอนเป็นเด็ก..วิ่งหนีไม้เรียวแม่ไม่เคยทัน..จำได้ว่าครั้งหนึ่งตอนประมาณสิบขวบเคยโดนแม่ตีด้วยด้ามไม้ที่ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว..เพราะทำให้น้องชายร้องไห้..กับอีกครั้งที่จำได้แม่นคือตอนที่เป็นวัยรุ่นแล้ว..แม่จับได้ว่าไม่ไปเรียนพิเศษเพราะหนีไปประกวดวงดนตรี..กลับมาบ้านตอนค่ำวันนั้น..แม่ซึ่งอุตส่าห์เข้ากรุงเทพมานั่งรอเราที่เรียนพิเศษเพื่อมารอกินข้าวกับเราแต่กลับไม่เจอลูกตัวเอง..กลับมารออยู่ที่บ้านคุณป้าพร้อมไม้เรียวคู่กาย..จำได้ว่าโดนไปมิใช่น้อยเลยวันนั้น..แม่บอกว่าแม่ไม่โกรธเลยที่เราไปเล่นดนตรี..แต่แม่โกรธที่เราไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เราควรทำก่อนเป็นลำดับแรก..คือ"การเรียน"..สิ่งที่ผมคิดในตอนนี้ก็คือ..หลังจากวันนั้นแม่ก็มีสิทธิเต็มที่ที่จะห้ามไม่ให้เราเล่นดนตรีอีกเพราะว่าเราไม่สามารถแบ่งเวลาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมได้..แต่สุดท้ายแม่ก็ไม่เคยห้ามไม่ให้ผมเล่นดนตรีและร้องเพลง..ไม่เคยเลยสักครั้ง..ทั้งๆที่ลึกๆแล้วผมคิดว่าแม่คงอยากให้เราตั้งใจเรียนโดยไม่อยากให้มีสิ่งใดมาชวนทำให้เราไขว้เขว..แต่แล้วแม่ก็เลือกที่จะยอมให้ผมได้ทำตามใจตัวเอง..และได้ทำในสิ่งที่เรารัก..กีต้าร์ตัวแรกในชีวิตแม่ก็เป็นคนซื้อให้..เราชอบร้องเพลง..แม่ก็เคยส่งให้เราไปเรียนร้องเพลงเพราะได้ยินเสียงที่เราแหกปากร้องเพลงที่บ้านแล้วแม่คงกลัวว่าคอเราจะแตกไปเสียก่อน..หลังจากเรียนจบปริญญาตรีนิติศาสตร์..จุฬาฯ..ผมก็เลือกที่จะไม่ทำงานประจำในด้านที่จบมา..แต่กลับเลือกที่จะร้องเพลงเป็นอาชีพแลกกับค่าจ้างคืนละไม่กี่ร้อยบาท..พร้อมกับแบกความหวังว่าสักวันสิ่งที่เราตั้งใจทำให้สำเร็จอยู่ในตอนนั้นคงเป็นจริงเข้าสักวันและคงทำให้แม่ได้เห็นและภูมิใจบ้างไม่มากก็น้อย...ก็คือการทำเพลงของตัวเองให้สำเร็จขึ้นมาสักอัลบั้ม..แต่มันก็ไม่ใช่เวลาแค่อาทิตย์หรือสองอาทิตย์..เดือนหรือสองเดือน..แต่ช่วงเวลาแห่งความหวังลมๆของผมนั้นมันใช้เวลาเป็นแรมหลายปีนับตั้งแต่เรียนจบจนได้มีเพลงของตัวเองเพลงแรกเปิดทางวิทยุให้ทุกคนได้ฟัง..ช่วงเวลาอันยาวนานนั้น..แม่..ก็ไม่เคยบ่นและห้าม..หรือสั่งให้ผมหยุดทำสิ่งที่ผมฝันและตั้งใจเพราะแม่รู้ว่าผมมีความสุขที่ได้ทำ..ทั้งๆที่มันโคตรจะเป็นช่วงที่เลื่อนลอยที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งในสายตาของเขาหรือผู้ใหญ่ที่เฝ้ามองดูเราอยู่ห่างๆ..ด้วยความเป็นห่วง...แม่..ทำแค่บอกให้เราไปเรียนเนฯเอาไว้อีกทางเผื่อว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำในตอนนั้นมันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจ"ฝัน"..จะได้มีแผนสำรองเผื่อเอาไว้ในชีวิต"จริง"..และจนวันนี้..สิบกว่าปีนับตั้งแต่เรียนจบมา..ขอบพระคุณแม่ที่ยังคงให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับ"ความฝัน"..รักแม่และยังคิดถึงไม้เรียวของแม่อยู่เสมอนะครับ :)

รูปภาพที่โพสต์โดย artiwara kongmalai (@artiwara) เมื่อ




.:: ข่าวอื่นๆ