หลังตกเป็นข่าวลือเป็นระยะว่านักร้องนางเอกสาวตาโต พิม พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร หรือ พิม ซาซ่า ป่วยเป็นมะเร็ง จนต้องใส่วิกถ่ายละคร และระยะหลังในซิทคอมเป็นต่อขั้นเทพ บท พอใจ ของ สาวพิม ก็ถูกเขียนบทให้ต้องกลับเชียงใหม่ หายจากหน้าจอไป ล่าสุด สาวพิม ได้เปิดใจในงานเปิดตัวละคร 2 เรื่อง 2 รส "ช่องวันของคุณ ทั้งวัน ทุกวัน" โดยรับว่า ตกใจที่ตรวจพบเจอก้อนเนื้อร้ายมะเร็งรังไข่ระยะแรก ต้องทำคีโม 6 ครั้ง ตามหมอสั่ง ซึ่งทำไปแล้ว 5 ครั้ง เหลืออีก 1 ครั้ง เบื้องต้นอาการดีขึ้น พร้อมกันนี้นางเอกสาว พิม ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดละคร ยังเปิดเผยว่าตรวจพบตั้งแต่ ต.ค.ปีที่แล้ว และโอกาสหายขาดมี 90% ตอนนี้กำลังใจเกินร้อย
"ช่วงต.ค ปีที่แล้ว ไปตรวจร่างกาย รู้สึกมีความผิดปกติ ท้องบวม เลยพบก้อนเนื้องอกในรังไข่ ซึ่งคุณหมอก็ให้ผ่าออกเลย เบรคงานทุกอย่าง พิมก็รู้สึกโอเค ผ่าออก ไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอผ่าออกมา ก้อนมันใหญ่มาก คุณหมอเลยเอาก้อนเนื้อไปตรวจอย่างละเอียดเลยเจอบางสิ่งว่ามันอาจพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง และให้คำแนะนำว่าควรต้องทำคีโม พิมเจอเร็ว ถ้ารักษาตอนนี้ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ยาวๆ ไม่ต้องกังวลคำว่ามะเร็ง แต่ถ้ายังไม่อยากรักษา หลังจากนี้ไป 5 ปี นับจากวันนี้ คุณหมอจะไม่การันตีอะไรทั้งนั้น
ตอนคุณหมอพูดแค่นั้นก็ช็อคไปแล้วใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มือไม้อ่อน มีพี่เจี๊ยบ โสภิตนภา คุณแม่และทุกคน พาไปพบคุณหมอปรึกษาว่าควรรักษายังไง ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องทำคีโมเพื่อระยะยาว ตอนนั้นก็หยุดทุกสิ่งอย่างเพื่อรักษาตัวในช่วงที่หายไป ก็มีผลข้างเคียงเหมือนคนอื่น ผมร่วง ถามว่าเสียความมั่นใจไหมหรือการใช้ชีวิตลำบากไหม ยอมรับว่าลำบาก เพราะไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น คนที่มีประสบการณ์ก็มาเล่าหรอกว่าเราต้องเข้มแข็ง ถ้าใจเราดี เราก็จะผ่านไปได้ สุดท้ายพิมพ์ก็ยอมรับและใช้ชีวิตอยู่กับเค้าอย่างเข้าใจ ว่าเดี๋ยวมันมาแล้วมันก็จะต้องหาย เพราะคุณหมอก็ทำให้เราสบายใจถูกทางว่าพิมจะหายโดยไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้อีก ซึ่งคุณหมอบอกว่ามีโอกาสหาย 90%
ขั้นตอนการรักษาคือให้คีโมพิมต้องทำทั้งหมด 6 ครั้งตอนนี้ทำไปแล้ว 5 ครั้ง ยอมรับว่ามันก็มีผลข้างเคียง ก็ต้องขอบคุณตัวเองและคนรอบข้างทุกคนที่ให้กำลังใจเต็มที่มันทำให้พิมพ์รู้สึกว่าพิมแข็งแรงและต้องผ่านมันไปให้ได้พิมอยากมีชีวิตต่อไปอีกยาวๆ พิมพ์ไม่อยากจบแค่นี้เพราะคำว่าเรากลัวการให้คีโม ถ้าเราทำ เราอดทนแล้วจะหายพิมก็อยากจะหาย
อาการตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คือมันเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายที่เรารู้ว่าเรามีโรคแบบนี้อยู่ในร่างกาย เจอเร็วเลยรักษาได้ มันยังไม่ทันเป็นมะเร็ง มันยังไม่ได้กัดกินทำลายร่างกายตอนนี้สิ่งที่สู้คือพิมสู้กับคีโมกับอาการแพ้นิดหน่อย แต่เราสามารถทำงานได้ ถ้าให้ยาใน 1 อาทิตย์จะต้องพักผ่อนอาทิตย์ถัดไปถึงจะแข็งแรงทำงานได้ส่วนกำลังใจพิมดีมากทุกครั้งที่ตรวจ หมอก็จะชมว่าดีขึ้น แข็งแรง ทำคีโมอีก 1 ครั้งก็จบแล้วมันทำให้เรามีกำลังใจที่สำคัญพิมได้เป็นตัวอย่างของคนในรุ่นเดียวกับพิมที่ได้ดูแลสุขภาพร่างกาย ที่ผ่านมาพิมไม่เคยตรวจร่างกายเลยพอตรวจออกมาแล้วเจอเลย ทำให้หลายคนต้องหันกลับมาดูแลร่างกายตัวเองมากขึ้น"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากนี้จะต้องรักษาอย่างไรต่อไป นักแสดงสาวกล่าวต่อว่า "ต้องถามหมอค่ะ แต่หมอก็บอกว่าให้พิมใช้ชีวิตปกติ จบตรงนี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตมีสติด้วย เพราะต้องคิดว่าถ้าต้องกินสิ่งนี้แล้วไปกระตุ้นมะเร็งเราก็ต้องเลี่ยงไปกินอย่างอื่น เพื่อนๆ คนรอบข้างก็ให้กำลังใจตลอด ตอนที่ทราบพิมไม่มีเวลาทำอะไรเลยเพื่อนๆ และคนรอบข้างก็คอยให้กำลังใจเพราะตัวเองก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน แต่อย่างที่บอกหมอครอบครัวและคนรอบข้างให้กำลังใจและบอกว่าจะผ่านไปด้วยกัน ตอนผ่าตัดพิมไม่กลัวเลย รู้สึกว่าผ่าตัดแล้วเดี๋ยวมันก็หาย เอาออกแล้วมันจะดี ก็ไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นอะไรอีก ตัวพิมเองก่อนหน้านี้มีปัญหาเกี่ยวกับการเป็นประจำเดือนแล้วปวดท้องตั้งแต่เด็กๆ มันก็อาจจะเป็นผลต่อฮอร์โมนก็ได้
ส่วนเรื่องการมีบุตรในอนาคต หมอบอกว่ายังมีบุตรได้เพราะว่าตัดรังไข่แค่ข้างเดียว แต่ไม่รู้ว่าข้างไหนพิมไม่ได้ถามหมอค่ะ ตัวพิมก็อยากบอกกับทุกคนว่าเรื่องนี้พิมไม่ได้ปิดบังอะไรแต่ไม่ได้ออกมาบอกจนวันนี้ พิมรักษาหายแล้ว ก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา ตอนนี้อยากบอกทุกคนว่าพิมน่าจะหายขาดแล้ว และก็คงค่อยๆ กลับมาฟื้นฟูร่างกายให้เหมือนเดิม แต่กำลังใจเกินร้อยนะคะ".
ขอบคุณ