ซึ่งโปรเจคนี้ได้นำเอาความเป็นญี่ปุ่นใส่เขาไปแบบจัดเต็ม และพวกเขาได้ทำเพลงพิเศษขึ้นมาถึงสองเพลงสองภาษา! และยิ่งไปกว่านั้น ละอองฟองลงทุนบินไปถ่ายมิวสิคฯ กันไกลถึงแดนปลาดิบเลยทีเดียว ครั้งนี้ ละอองฟอง ยังได้ฝากบทสัมภาษณ์สั้นๆ เกี่ยวกับโปรเจคครั้งนี้ไว้ว่า

"พวกเราวงละอองฟอง ได้กลับมามอบความสุขผ่านเสียงเพลงให้แฟนเพลงได้ฟังกันอีกครั้ง กับโปรเจคพิเศษที่เราทุ่มทั้งแรงกาย แรงใจกันแบบหมดตัวเลยก็ว่าได้ ผลงานล่าสุดนี้เรียกได้ว่าเป็นงานเพลงที่เล่าถึงมุมมองของความรักที่โตขึ้นผ่านความเป็นละอองฟอง ในแบบที่ทุกคนคุ้นเคย เพราะพวกเรายังคงความสดใสเรื่องของเสื้อผ้า และเสียงเพลงไว้เหมือนเดิม ไม่ต่างจากงานเพลงที่ผ่านมา แต่ความพิเศษอยู่ตรงความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นกับพวกเรา  โปรเจคนี้พวกเราได้ทำเพลงขึ้นมาใหม่ถึงสองเพลง ซึ่งแต่ละเพลงก็จะเสนอมุมมองความรักที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้อร้อง และทำนองจะให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง และยังเพิ่มความรู้สึกถึงรักที่สดใส รวมทั้งความเศร้าเหงาในเรื่องของความรัก ไม่ใช่แค่เพลงใหม่ พวกเรายังนำเพลงฮิตที่อยู่ในความทรงจำของละอองแฟนมาทำใหม่อีกด้วย ตัวเพลงว่าพิเศษแล้ว มิวสิคฯ ของเรายิ่งพิเศษไปกว่านั้นอีก เพราะพวกเราได้ยกกองถ่ายไปถ่ายถึงประเทศญี่ปุ่น ให้ได้ฟิวญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม ทั้งบรรยากาศ และความรู้สึก! เรียกว่าโปรเจคพิเศษที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ แฟนเพลงละอองฟองจะต้องเต็มอิ่ม และคุ้มสุดๆ อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้พวกเราวงละอองฟองก็ขอฝากติดตามความเคลื่อนไหวของโปรเจคพิเศษนี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกของพวกเราวงละอองฟอง ที่ได้มีโอกาศไปเก็บบรรยากาศสวยๆ ไกลถึงประเทศญี่ปุ่น มาใส่ไว้ในมิวสิคฯ ให้แฟนๆ ของพวกเราได้รู้สึกถึงฟิลจริงๆ และมาลุ้นกันว่า ละอองฟอง กับญี่ปุ่น จะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร อีกไม่นานเกินรอครับ” 

ลงทั้งทุน ทุ่มทั้งกายขนาดนี้ รับรองว่าละอองแฟน จะไม่ผิดหวังกับโปรเจคพิเศษๆ ของพวกเขาวง “ละอองฟอง” สังกัด “สไปร์ซซี่ ดิสก์”(Spicy Disc) อย่างแน่นอนและถ้าใครไม่อยากพลาดความเคลื่อนไหวของวง ละอองฟอง สามารถเข้ามาได้ที่ www.spicydisc.com และ www.facebook.com/spicydisc แต่ถ้าใครอยากเป็นเจ้าของงานเพลงเพราะๆ ของพวกเขา ก็สามารถกดมาได้ที่ *49154410 และทาง iTunes แล้วคุณจะได้ยินเสียงเพราะๆ ของพวกเขาตลอด 24 ชม