DJ
song:
artist:
NEWS
Jun 20, 2014 | ดู 2,255 ครั้ง

แด๊ก หวนจับไมค์ในรอบ 4 ปี ปัดตั้งใจปล่อยซิงเกิ้ลชนกับ 'บิ๊กแอส'

หลังจากที่จบแบบไม่สวยกับเพื่อนร่วมวง “บิ๊กแอส” สำหรับ “แด๊ก เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด” อดีตนักร้องนำที่เคยออกมาแฉว่าตนเหมือนโดนหักหลัง ทั้งๆ ที่ตั้งใจอยากจะยุบวง แต่กลายเป็นว่าสมาชิกในวงบิ๊กแอสกลับหานักร้องใหม่มาแทนตน จนหายหน้าไปจากวงการเพลงนานเกือบ 4 ปีเต็ม ล่าสุดเจ้าตัวได้กลับมาจับไมค์อีกครั้ง ในโปรเจ็กต์ ROCK RIDER ซึ่งเป็นการรวมกันเฉพาะกิจร่วมกับวง SILLY FOOLS, AIR BORNE
       
       “ผมดีใจที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้งในที่ที่คุ้นเคย จากที่เราไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่ต่างจากหลายๆ คนเคยเห็น ก็ถือว่าแฮปปี้ดีครับที่กลับมา มันเริ่มจากหลายๆ อย่างมันเป็นการต่อยอดจากการเดินทาง จาก พี่หรั่ง ซิลลี่ ฟูลส์ (เทวฤทธิ์ ศรีสุข) ขี่มอเตอร์ไซค์ ทำรายการทีวีเล็กๆ แล้วพี่หรั่งก็ชวนมาเล่นคอนเสิร์ตจนมันเล่นเยอะขึ้น แฟนๆ ก็ถามตลอด บอกว่าให้ผมทำเพลงใหม่ให้ฟังได้แล้ว ผมรู้สึกว่ามันก็น่าสนใจดีนะ ผมก็อยากทำอยู่แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอยากฟังเราอยู่ (หัวเราะ) พี่หรั่งก็เลยบอกว่ากลับมาร้องเพลงเถอะ เดี๋ยวเขาทำให้เอง ก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไรนาน เพราะพี่เขาบอกว่าเดี๋ยวกูจะทำเพลงให้มึง เตรียมตัวให้ดีแล้วกัน (หัวเราะ)”
       
       “ช่วงที่หายไป 3-4 ปีก็ไม่ได้ทิ้งการร้องเพลงไปซะทีเดียวนะ เพราะยังมีคอนเสิร์ตตามผับบ้างประปราย พี่หรั่งเขาก็บอกว่าไหนๆ ก็เดินทางด้วยกันขนาดนี้ ก็ตั้งเป็นชื่อนามสกุลใหม่มาเป็น Rock Rider ซึ่ง Rock ก็มาจากความเป็นร็อกของพวกเรา ยังไงก็ทิ้งไม่ได้หรอก Rider ก็เป็นตัวแทนของความอิสระทางความคิด การทำงาน ก็ได้เป็นคำนิยามนี้ขึ้นมา”
       
       “ตอนเริ่มมาทำเพลงก็เป็นการทำงานอีกรูปแบบที่ผมไม่เคยเจอเหมือนกัน อย่างซิงเกิ้ล คนตายที่หายใจ พี่หรั่งก็คิดทำนองมาให้ ส่วนเนื้อร้องได้ เต๋า AIR BORNE เป็นคนแต่ง ผมบอกเขาว่าลองแต่งเพลงดู โดยผ่านตัวกูนี่แหละ ดูจากชีวิตที่มึงอยู่กับกู เพลงช้าเพลงนี้มึงอยากจะพูดอะไร ผ่านไปสองวันเขาก็เอามาให้ดูเราก็มาแชร์ไอเดียกัน แต่ปรับแก้กันนิดเดียวก็ได้ออกมาเป็นเพลงนี้ครับ”
       
       บอกตั้งใจประเดิมด้วยเพลงช้า เพราะมั่นใจว่ามีคนคอยจับผิดว่าเสียงตนจะกลับมาดีเหมือนเดิมไหม ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบว่าเพลงจะซ้ำรอยบิ๊กแอส
       “ที่เลือกปล่อยเพลงช้า เพราะผมคิดว่าหลายคนก็คงอยากจะรู้ว่าการร้องเพลงของผมจะเป็นยังไง เสียงแย่ หรือไม่แย่ พี่หรั่งก็เลยบอกว่ามึงร้องเพลงช้าดีกว่า ร้องเพลงเร็วมันไม่รู้เรื่องหรอก คือใครจะด่าเราก็ไม่รู้หรอก แต่ทำเพลงออกมาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ จะไปคิดอะไรเยอะ จะไปนั่งอ่านคอมเมนต์คนด่าก็ไม่ใช่เรื่องเพราะว่าอ่านไปก็เท่านั้น ถ้างานเราน่าฟังหรือทำออกมาแล้วมีความสุข ผมว่ามันก็สมบูรณ์แล้วล่ะ”
       
       “พอเพลงปล่อยออกไปแล้ว ผมก็อ่านคอมเมนต์อยู่เหมือนกัน ก็สนุกดีนะ หลายคนอินกับเนื้อเรื่องในเอ็มวี บางคนก็ด่า บางคนก็ชม นอกจากตัวเพลงแล้วเอ็มวีก็ประสบความสำเร็จนะ อยากให้ดูเพลง และอยากให้วิจารณ์แค่งาน เรื่องอื่นไม่ต้องมานั่งเถียงกันหรอก มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งด่ากัน เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นด่าๆ กันก็เรื่องชอบไม่ชอบ ใหม่เก่าอันนั้นดีกว่า อันนี้แย่กว่าแค่นั้นเอง”
       
       “ผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว คนจะเปรียบเทียบก็จะไปทำอะไรเขาได้ คนที่วิจารณ์ให้มันมาเจอหน้าผม ใครมันจะกล้ามาวิจารณ์ต่อหน้า มันก็ต้องไปวิจารณ์ในเน็ต มาวิจารณ์ต่อหน้าผมก็กัดคอมันให้สิ (หัวเราะ) แต่ใครจะเอาไปเปรียบเทียบกับของบิ๊กแอสก็แล้วแต่เขาครับ การเปรียบเทียบมันเป็นเรื่องของแต่ละคน เรามันทำงานของเราแล้ว พอเสร็จก็อยากจะให้ทุกคนได้ลองฟัง ผมว่าการที่ได้ฟังเพลงหลายๆ แบบ ถือเป็นกำไรของคนฟังนะ”
       
       “ผมไม่รู้นะว่าเพลงปล่อยออกมาพร้อมกัน เราก็ปล่อยของเราผมรู้สึกเท่ด้วยนะ วันที่ปล่อยเพลงวันแรกวันที่ 20 พฤษภาคม เคอร์ฟิวพอดี หลายคนบอกพี่แม่งมาพร้อมทหารเลย ไปเปิดตัวที่คลื่นวิทยุเขาก็พูดกันว่าโคตรเจ๋งเลย แล้วมันดีตรงที่ว่าพอเคอร์ฟิวเขาก็ไม่ได้ดูทีวีกัน ก็เปิดยูทูปดูเอ็มวีฟังเพลง บอกโอ้โหโคตรโดนเลย (หัวเราะ) ผมว่าหลายๆ อย่างทำให้เราสนุกกับเหตุการณ์ได้ครับ”
       
       เรื่องเสียงของผมมันก็แบบนี้แหละครับ เป็นอย่างที่เคยเป็นมันไม่เคยเป็นอะไรอยู่แล้ว อยู่ที่ความเข้าใจว่าจะทำงานลักษณะไหนมากกว่า คือนักมวยแชมป์โลกก็ไม่เคยมีใครต่อยได้แชมป์โลกยันตายนะครับอย่าลืม ไม่มีใครอยู่ในฟอร์มที่เก่งกาจที่สุด ฉะนั้นที่บอกว่าผมกลับมาเหมือนเดิม มันไม่เหมือนเดิมหรอกครับ เพียงแต่ว่าผมมีความสุขกับวันนี้ คือใครๆ ก็คิดว่าผมแม่งกินเหล้าหัวทิ่มหัวตำก็กินแหละ แต่ก็ไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็ด่าว่าผมสูบบุหรี่ แต่ผมเลิกสูบมาเป็นสิบปีแล้วนะ”
       
       “คือองค์ประกอบมันหลายเรื่องครับ เสียงไม่ได้กลับมาดีเหมือนเดิมหรอก เพียงแต่ว่าเรามีความสุขที่เราได้ทำตรงนี้แค่นั้นเอง แต่จริงๆ ตอนแรกพี่หรั่งเขาก็เครียดนะ เพราะผมก็ไม่ได้ร้องเพลงในห้องอัดมา 3 ปีแล้ว เขาก็มานั่งรอผมตั้งแต่บ่ายสาม แล้วผมก็ไม่ได้บอกเขาว่าจะมากี่โมง ผมก็ไปถึงสองทุ่ม ก็งงว่าทำไมมารอกันหน้าห้องเยอะแยะ แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผมว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับเสียงของผมแต่ดนตรีอาจจะเป็นสีสันใหม่ เพราะซิลลี่ ฟูลส์ก็ไม่ได้เล่นแบบนี้ AIR BORNE ก็ไม่ได้เล่นแบบนี้ ก็เป็นส่วนผสมที่ให้มาเจอกัน”
       
       ยันไม่จำเป็นต้องลบภาพบิ๊กแอส และไม่คิดตัดขาดวงเดิมเพราะถึงอย่างไรก็โตมาด้วยกัน
       “ไม่ได้ติดต่อเลยครับต่างคนต่างทำงาน เราก็ทำงานของเราแต่ได้เห็นผลงานของเขาอยู่แล้วครับ ผมก็ไม่ได้จะต้องลบภาพอะไร ใครจะเรียกเรายังไงก็คือเป็นเรามาตั้งแต่เกิด แต่วันนี้ผมจะขยายความว่าผมเป็นอะไร ตอนนี้ผมคือ Rock Rider เราคงตัดขาดกันไม่ได้เพราะเราโตมาด้วยกันแหละครับ ดีดลูกหินมาด้วยกันแต่ไม่ได้เจอกันเลยครับ เพราะช่วงนี้ผมค่อนข้างมีงานต้องทำเยอะ”




.:: ข่าวอื่นๆ