DJ
song:
artist:
NEWS
Dec 09, 2014 | ดู 20,087 ครั้ง

ภูมินันท์ ปิยทัศน์นันท์ เจ้าของภาพถ่าย พลุวันพ่อ ที่หลายคนยังประทับใจ

กว่าจะได้ “ภาพถ่ายพลุวันพ่อ”
       
สำหรับ ความประทับใจล่าสุด ที่คนไทยมีต่อผลงานของเขา เจ้าตัวบอกถึงแรงบันดาลใจ ที่ทำให้แบกอุปกรณ์ถ่ายภาพออกจากบ้าน ในวันที่การจราจรติดขัดแสนสาหัส แล้วกระโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ ยิงยาวจากย่านรามคำแหง มายังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่าน ถ.สามเสน เพื่อหามุมเหมาะๆสำหรับตั้งกล้องถ่ายภาพพลุและบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ณ ท้องสนามหลวง พร้อมกับเพื่อนช่างภาพคนอื่นๆว่า
       
“อยากจะมีส่วนร่วมกับการเฉลิมฉลองเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นปีแรกที่ผมกลับมาอยู่เมืองไทยด้วย พอเพื่อนๆบอกว่าจะมีการจุดพลุที่สนามหลวงอย่างยิ่งใหญ่ ผมก็เลยอยากจะมีส่วนร่วม ทั้งที่ผมเองไม่เคยถ่ายภาพพลุมาก่อน จึงอยากจะลองดู เลยนัดเพื่อนๆ ไปถ่ายภาพที่คอนโดฯส่วนตัว แถวสามเสน ในช่วงประมาณ 4 โมงเย็น ของวันที่ 5 ธันวาคม มีการทำหนังสือขออนุญาตขึ้นไป”
       
หลายชั่วโมงกับการไปตั้งกล้องบนตึกสูงเพื่อรอถ่ายภาพ “พลุวันพ่อ” ภาพแรกในชีวิต ภูมินันท์บอกเล่าให้ฟังถึงวิธีการทำงาน กว่าจะได้มาซึ่งภาพที่หลายคนประทับใจว่า “เราขึ้นไปตั้งกล้องรออยู่ 3 ชั่วโมง รอว่าเมื่อไหร่พลุถึงจะเริ่มถูกจุด ถึงจะได้เริ่มถ่าย อุปกรณ์ถ่ายภาพ ทุกอย่างเป็นแมนนวลหมด ตอนแรกคิดว่าจะเอาเลนส์เทเล 80-200 มาเจาะถ่ายปรัมพิธีตรงท้องสนามหลวง ท่ามกลางบรรยากาศของพลุและดอกไม้ไฟสวยๆ แต่ในสถานการณ์จริงสิ่งที่อยากจะถ่ายมันมากกว่านั้น ผมไม่รู้ว่าป้อมตรงนั้นคือป้อมอะไร(ป้อมพระสุเมรุ) สวยมากเลย เพื่อนก็ชี้บอกว่ามุมนี้ปกติที่เค้าถ่ายกัน เอาเลนด์ไวด์มาเก็บป้อมตรงนี้ได้ แต่ถ้าใช้เลนส์ไวด์ถ่ายปั๊บ ปัญหาก็คือพอเก็บป้อมได้ บรรยากาศตรงท้องสนามหลวงที่ไกลออกไปจะเก็บได้เล็กมาก เพราะเลนส์ไวด์ที่ผมเตรียมไป มันค่อนข้างแคบเกิน ก็พยายามคิดว่าจะทำยังไงดี
ผมเลยใช้เทคนิคถ่ายภาพพาโนรามา โดยใช้เลนเทเล ในระยะประมาณ 100 เจาะเก็บเฉพาะตัวป้อมก่อน แล้วค่อยๆเขยิบกล้องขึ้นไปเรื่อยๆ
       
การใช้เลนส์เทเล ดึงขึ้นมาจะทำให้เก็บป้อมได้ใหญ่ และด้านหลังที่เป็นท้องสนามหลวง มันก็จะใหญ่ขึ้นมาในเฟรม และในวิธีการเก็บภาพของผมคือ อย่างภาพป้อมอย่างเดียว เก็บ 3 ช็อต หรือ 3 ภาพ แล้วก็ค่อยเก็บขยับขึ้นไปอีกที่ละ 3 ภาพ”
       
ภูมินันท์บอกเล่าเพื่อที่จะบอกว่า ภาพถ่ายอันงดงาม 1 ภาพ ผลงานของเขา ที่ผู้คนเห็นผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ใช่ภาพที่ถ่ายจบในช็อตเดียว แต่เป็นการเก็บภาพบรรยากาศอื่นๆรอไว้ก่อน ทั้งโฟร์กราวน์และแบรค์กราวน์รวม 15 ช็อต ก่อนจะนำไปรวมกับภาพพลุที่จะถ่ายได้ในตอนหลัง

“หลังจากที่เก็บโฟร์กราวน์และแบรค์กราวน์เสร็จ จากนั้นก็รอจังหวะการจุดพลุ เพื่อนๆบอกว่าประมาณหนึ่งทุ่มสิบห้านาทีพลุจะเริ่มจุด แต่ในสถานการณ์จริงวันนั้น ปรากฎว่าในเวลาหนึ่งทุ่มสิบห้านาที สถานที่ โดยรอบจุดที่เราตั้งกล้อง เขาเริ่มจุดพลุกันแล้ว ขณะที่สนามหลวงยังไม่จุด กระทั่ง หนึ่งทุ่มครึ่งก็แล้ว หนึ่งทุ่มสี่สิบก็แล้ว จนเราเริ่มสงสัยกันว่าทำไมจุดช้าจัง กระทั่งหนึ่งทุ่มสี่สิบห้า รายการโทรทัศน์เริ่มมีการถ่ายทอดการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตอนนั้นก็คิดว่าต้องเริ่มจุดแล้วแน่ๆ จึงได้เริ่มต้นบันทึกภาพกัน
       
ภาพแรกๆที่บันทึกได้ ได้ภาพพลุเล็กมากๆ จุดมาตู้มเดียว เห็นควันเต็มปรัมพิธีตรงท้องสนาม เพื่อนๆก็บอกว่า ตายแล้วควันเต็มไปหมดเลย ความหวังที่จะได้ภาพดอกไม้ไฟสวยๆคงลำบากแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หน้าที่เรา ต้องบันทึกความทรงจำ ณ สถานการณ์ตรงนั้นเอาไว้ก่อน"
       
พลุสีธงชาติ
       
"จากนั้นผ่านไปประมาณ 5-10 นาที จึงมีพลุลูกใหญ่ปรากฎขึ้นตามมา ด้านซ้ายมือบนของท้องสนามหลวง ซึ่งสวยงามมาก และเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมเริ่มรู้แล้วว่า เลนส์ไวด์ที่ผมเตรียมไปมันไม่พอ เพราะแคบ แต่บรรยากาศตรงนั้นมันกว้างมากจนผมต้องรีบปรับการถ่ายจากการใช้เลนส์เทเลถ่ายแนวนอนมาเป็นแนวตั้ง เพื่อจะเก็บภาพพลุตรงจุดนั้นให้ได้ก่อน พลุเนี่ยเขาจุดประมาณ 4-5 ชุดก็จบแล้ว ซึ่งภาพพลุที่เก็บได้ เป็นพลุสีธงชาติ ขาว แดง น้ำเงิน ถือว่าโชคดีมากที่เก็บได้พอดี พอถ่ายเสร็จผมเลยได้แต่หวังว่า ขอให้ถ่ายภาพพลุสีธงชชาติติดและขอให้สีและแสงไม่ล้น
       
พอกลับถึงบ้านมาเช็คดู เรียกว่าเป็นโชคดีที่ได้ภาพพลุในแบบที่ผมอยากได้พอดีเลย แสง สี ความคมชัด ไม่หลุดเลย หลังจากนั้นผมก็นำภาพที่ถ่ายทั้งหมดมาผ่านกระบวนการ โดยการนำภาพที่ผมถ่ายโฟร์กราวน์ และแบรคกราวน์ 15 ภาพในตอนแรก มารวมกับภาพพลุที่ถ่ายได้ ในกระบวนการตกแต่งภาพในคอมพิวเตอร์”





ขอบคุณข่าวจาก www.manager.co.th




.:: ข่าวอื่นๆ



  1. เหมือนวิวาห์ (Rain Wedding) Ost.วิมานหนาม / Jeff Satur