เป็นการส่งท้ายปีไม่ซ้ำใครจริงๆ สำหรับ ว่าน ธนกฤต ที่ครั้งนี้ขอส่ง 2 เพลงเศร้าเซ็ทสุดท้ายจาก “Long Time No Song” ออกมาปลอบปะโลมหัวใจทุกคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อความสัมพันธ์นั้นเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด ซึ่งทั้งสองเพลงนั้นให้ความ่รู้สึกที่แตกต่างกันไป อย่างเพลง “ก้าวขาไม่ออก” เล่าถึงช่วงเวลาอันน่าอึดอัดใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่ครั้งหนึ่งเคยรักกัน แต่ในวันนี้กลับต้องมาเจอกันพร้อมกับคนรักใหม่จึงเกิดเป็นสถานการณ์ที่ทำตัวไม่ถูกถึงแม้จะรู้ว่าควรทำตัวอย่างไรแต่เหมือนร่างกายกลับไม่ทำตามคำสั่งยืนมองภาพตรงหน้าให้เจ็บปวดต่อไป สลับมาที่เพลง “เจ็บแล้วทนคือใคร” ก็เป็นความเจ็บปวดอีกรูปแบบหนึ่งที่มาจากประโยคคลาสิกที่หลายๆ คนคุ้นหูมาขยายต่อผ่านซาวน์ดนตรีฟังง่ายแต่ลำบากคนร้อง ซึ่งได้ เต็น ธีรภัค รับหน้าที่เขียนเนื้อร้อง – ทำนอง โดยเล่าถึงการลืมใครสักคนนั้นไม่ได้เป็นเรื่องยาก แต่กลับเลือกที่จะเก็บความเจ็บนี้ไว้กับต่อไปและเมื่อถึงเวลาก็จะจางหายไปเอง ดังนั้นจึงกลายมาเป็นมิวสิกวิดีโอที่เราเรื่องราวผ่าน 3 ตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกัน ต้องมาอยู่ในสถานการ์ณอันน่าอึดอัดใจบนรถโดยสารที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ ซึ่งบทสรุปของเรื่องราวเล่านั้นจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามชมได้ทาง YouTube Channel SPICYDISC
แต่ก่อนที่จะไปฟังทั้ง 2 เพลงนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีข้อสงสัยว่าทำไม ว่าน ถึงเลือกเพลงเศร้ามาปล่อยในช่วงของเทศกาล และคนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้แจ่มแจ้งที่สุดก็ต้องเป็นเจ้าของเพลง โดย ว่าน เล่าให้ฟังว่า “หากถามว่าทำไมถึงเลือก 2 เพลงนี้มาปล่อยในช่วงสิ้นปีนั่นเป็นเพราะตัวผมเองเชื่อว่าประชากรคนโสดนั้นมีจำนวนมากกว่าคนมีคู่ ดังนั้นการเลือกปล่อยเพลงเศร้าในช่วงนื้จึงเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเพื่อเป็นการปลอบโยนให้ใครก็ตามที่ต้องตกอยู่ในสถาณการ์ณเหมือนในเพลงของผมให้คุณได้รู้ว่าคุณไม่ได้เสียใจคนเดียว อย่างในเพลง ก้าวขาไม่ออก นั้นถูกเขียนขึ้นการเรื่องในอดีตของผมเองเมื่อตอนวัยรุ่นได้มีความรักและจบลงไป จนเวลาผ่านไปได้มาเจอกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญนั้นทำให้รู้สึกทำตัวไม่ถูกว่าต้องทำตัวอย่างไรจะเข้าไปทักดีไหมแต่เขาก็มากับแฟนใหม่จะเข้าไปทักก็คงดูไม่ดี ทำได้แค่ยืนมองมันเป็นความรู้สึกของคนอ่อนแอที่รู้ว่าควรจัดการตัวเองอย่างไรแต่ก็ทำไม่ได้นั่นคือเพลงแรก ส่วนเพลงต่อมากับ เจ็บแล้วทนคือใคร ผมได้พี่เต็นมาช่วยเขียนเนื้อร้อง – ทำนอง ให้โดยแต่งจากวลีคุ้นหูมาขยายความถึงการลืมใครสักคนนั้นไม่ได้เป็นเรื่องยากเพียงแต่เราเลือกที่จะยึดเอาความเจ็บนั้นไว้กับตัว ให้จมอยู่กับความเศร้านั้นไปเรื่อยๆ สิ่งเดียวที่จะทำให้ความเจ็บนั้นหายไปก็คือต้องปล่อยมือจากความเจ็บปวดนั้นไป โดยทั้ง 2 เพลงเป็นเพลงเศร้าเซ็ทสุดท้ายของอัลบั้มที่ผมอยากให้ทุกคนได้ฟังกันครับ”