ย่างเข้าเดือนหกฝนก็ตกพรำๆ... วัฏจักรของฤดูกาลที่มนุษย์เราต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทัน ทุกวันนี้โลกเราอยู่ยากขึ้นทุกวินาที ในหนึ่งวันมี 3 ฤดูก็เคยมาแล้ว เช้าหนาว กลางวันร้อน ตกเย็นฝนกระหน่ำ ซัดกันเข้ามา สาระสุขสัปดาห์นี้ ขอนำข้อมูลชวนรู้เกี่ยวกับการระบาดของไข้เลือดออก โรคสนิทกับช่วงหน้าฝนในบ้านเราที่แวะเวียนมาพร้อมระบาดสู่คนที่ร่างกายอ่อนแอได้ง่ายๆ
ยุงลาย คือพาหะนำโรคใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ควรป้องกันอันดับแรกคือ ต้องเทภาชนะที่มีน้ำขังออก เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ของยุงลาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อีกทั้งควรกำจัดยุงลายด้วยทรายอาเบตลงในภาชนะที่ใส่น้ำขังด้วย และที่สำคัญตัวเราเองต้องปรับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่อาศัยให้ถูกต้อง พยายามอย่าให้มีมุมอับ หรือจุดที่มีความชื้น และน้ำขัง เพราะจะกลายเป็นแหล่งที่ยุงลายเพราะพันธุ์ได้รวดเร็ว
จะรู้ได้อย่างไรว่าป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้ว เช็ก 1. มีไข้ 2-3 วัน และมีผื่นตามตัว ซึ่งเกิดจากการเป็นไข้ไวรัส, เช็ก 2.มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดหัว เมื่อยตามตัว มีจุดเลือดขึ้นตามผิวหนัง บางรายอาจพบเกล็ดเลือด และเม็ดเลือดขาวต่ำ และเช็ก 3. มีอาการไข้สูง 2-7 วัน เลือดออกที่ผิวหนัง ตับโต มีการรั่วของพลาสมา หรือน้ำเหลืองออกเส้นเลือดอาจทำให้เกิดอาการช็อค
นอกจากโรคไข้เลือดออกแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพึ่งระวัง "ภัยไฟชอร์ต" อย่าเข้าใกล้หรือสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะเผลอเมื่อไรเป็นเจอน้องไฟ ทั้งดูด ทั้งชอร์ตหมายเอาชีวิตง่ายๆ นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ แนะว่า ถ้าเจอผู้ถูกไฟดูดในที่ที่มีน้ำขัง ต้องตัดกระแสไฟฟ้าก่อนลุยน้ำไปช่วยเหลือ อย่าเดินโท่งๆ เข้าไปทันที ต้องกระทำด้วยความเร็ว รอบคอบ และเซฟตัวเอง
ท้ายนี้ นพ.อนุชา ยังได้เตือนให้ประชาชนระวังภัยที่มาจากไฟฟ้าในช่วงหน้าฝน ถ้าใครเผลอถูกไฟดูด กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านหัวใจทำให้หัวใจหยุดทำงาน และอาจเป็นอันตรายต่อกล้ามเนื้อกระดูก อวัยวะในช่องท้อง ระบบประสาท ถ้าเป็นกระแสไฟฟ้าแรงสูงมาก เนื้อเยื่อที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจะถูกทำลายอย่างรุนแรงอวัยวะในช่องท้องได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้อเกร็ง หายใจเร็ว และหมดสติ.