DJ
song:
artist:
NEWS
Jun 16, 2015 | ดู 14,761 ครั้ง

#ดึงสติคนไทย สถานทูตไทยโพสต์ อุทาหรณ์จากคดีลักทรัพย์ที่ญี่ปุ่น

ที่เฟซบุ๊ก 在東京タイ王国大使館 สถานเอกอัครราชทูตไทย 〆 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้โพสต์ภาพ อุทาหรณ์จากคดีลักทรัพย์ และข้อความระบุว่า...

"*วัตถุประสงค์ของข้อมูลที่สถานทูตแบ่งปันด้านล่างนี้ เป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับแบบแผนปฏิบัติของสังคมญี่ปุ่นที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้ทราบ/ปฏิบัติ หรือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่าง

โปรดงดเว้นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้อง พาดพิงถึงบุคคลอื่น หรือมีเนื้อความที่ส่อเสียดต่อบทความนี้

เมื่อหลายเดือนก่อน สถานทูตฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมนักท่องเที่ยวไทยที่ถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ที่สวนสนุกชื่อดังของญี่ปุ่น โดยเธอเล่าว่าความคิดเพียงชั่ววูบ เพราะคิดว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็น จึงแอบหยิบของราคาไม่กี่พันบาทออกมาโดยไม่ได้จ่ายเงิน แต่เมื่อเดินออกจากร้านพนักงานของร้านเดินตามมาถามถึงของที่เธอขโมย จึงได้แต่พยักหน้ายอมรับและส่งมอบสิ่งของนั้นคืน โดยในใจคิดว่าแค่คืนของและอาจจะแค่เสียค่าปรับซึ่งเธอยินดีจ่ายเพราะการกระทำเมื่อสักครู่ แต่ในที่สุดเธอก็ถูกเชิญไปที่โรงพักและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากถูกจับ เธอต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 45 วัน เพื่อรออัยการยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล และหากศาลรับฟ้องก็ต้องถูกคุมขังเพื่อรอวันนัดไต่สวนคดี และตอนนี้ผ่านมาถึง 2 เดือนก็ยังไม่ทราบวันชัดเจนที่จะกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากต้องรอการพิจารณาคดีจากศาลที่ญี่ปุ่นเพื่อที่จะตัดสินบทลงโทษของเธอ เธอจึงยินยอมให้สถานทูตฯเล่าเรื่องของเธอให้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจและเป็นเครื่องเตือนใจในการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดกฎหมายของญี่ปุ่น เพราะผลที่ตามมาอาจจะหนักจนคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้�

ทั้งนี้ สถานทูตฯไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงระบบยุติธรรมหรือกฎหมายของญี่ปุ่นได้ กล่าวคือ คนไทยทุกคนเมื่อเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น หากกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น"

ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวเป็นการเตือนบรรดาคนไทยที่เที่ยวญี่ปุ่นว่า อย่าขโมยของที่นั่น อาจมีโทษหนัก โดยการบอกเล่าเรื่องราวของนักท่องเที่ยวชาวไทยรายหนึ่งที่ถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากความคิดเพียงชั่ววูบที่ว่า คงไม่มีใครเห็นขณะขโมยสินค้า สุดท้ายเมื่อถูกจับได้ ก็คิดว่าเพียงชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่างก็จบ แต่ปรากฏว่า เรื่องราวไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะนักเที่ยวรายนี้ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายญี่ปุ่น และทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่า ศาลที่ญี่ปุ่นจะตัดสินลงโทษเช่นไร รวมทั้งยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับเมืองไทยเมื่อใดกันแน่.




.:: ข่าวอื่นๆ